วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

Believe records

Do you believe...?

“Believe Records” เป็นกลุ่มคนดนตรีที่เชื่อในความฝันของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และ ต้องการเสนอผลงานดนตรีที่แตกต่างออกไป พวกเขา “บอล สครับบ์” - ต่อพงศ์ จันทบุบผา" และ “ฟั่น” โกมล บุญเพียรผล โปรดิวเซอร์ของวงสครับบ์ จึงได้เกิดไอเดียเป็นค่ายเพลงที่เกิดจากความเชื่อในความรู้สึกของพวกเขา คือ Believe Records พร้อมสโลแกนที่ว่า “ คุณเชื่อ...เราก็เชื่อ” โดยคอนเซ็ปต์ เปิดโอกาสให้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และที่สำคัญ จะต้องเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักฟังเพลงไทยรุ่นใหม่

โดย บอล หนึ่งในผู้บริหารฯ เปิดใจว่า “เราเป็นค่ายเพลงเล็กๆ ที่มีความตั้งใจดีในการทำเพลง แล้วก็อยากจะสื่อสารสิ่งที่เราคิดไปสู่ผู้ฟัง นี่คือคุณค่าที่อยู่ในตัวเพลง ซึ่งแค่นั้นเราก็พอใจแล้ว ยิ่งเพลงเราเป็นที่รู้จัก มีคนยอมรับ มีคนชื่นชอบในผลงาน ผมถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้วนะ"

“ผมเชื่อว่าโอกาสยังอยู่กับวงการ เพลงไทย” ต่อพงศ์ จันทบุบผา บอล-สครับบ

แล้วคุณล่ะ... เชื่อไหม?



ศิลปินในสังกัดที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง  อาทิ เช่น



25 Hours



 
การรวมกันของคนดนตรีที่มีสไตล์แตกต่างกัน มาร่วมกันสร้างงานดนตรีในสไตล์ของตัวเอง จากที่เคยอยู่เบื้องหลังบทเพลงมากมาย แต่ในวันนี้พวกเขาจะมาถ่ายทอดงานดนตรีในแบบของตัวเอง ในนาม “25 hours”

“25 hours” คือ ชั่วโมงที่ 25 ซึ่งแล้วแต่ผู้คนจะใส่ความหมายลงไป ในความเป็นจริงเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ถูกจับจองด้วยกิจกรรมประจำวันมากมาย แต่หากมีอีกสักหนึ่งชั่วโมง คือชั่วโมงที่ 25 เป็นเวลาที่จะทำสิ่งที่เรารักที่จะทำ ก็สามารถเปลี่ยนให้วันนั้นเป็นวันที่มีความหมายกับเราได้อยากมากมาย และสำหรับชั่วโมงที่ 25 ของพวกเขาคือ การสร้างสรรค์ดนตรี บทเพลงจาก 25 hours จะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต ทั้งสุขและทุกข์ เหงาหรือสนุกสนานซึ่งทุกเรื่องราวนั้นล้วนเป็นจุดเริ่มที่สำคัญ ในการสร้างงานเพลงในแบบของ 25 hours ที่อยากให้ผู้ฟังได้มีดนตรีของพวกเขา เข้าไปอยู่ในชั่วโมงที่ 25 ของทุกคน

 


Musketeers

 
 
MUSKETEERS คือ วงดนตรีโมเดิร์นร็อคจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นอายมาจากดนตรีฝั่งอังกฤษ โดยจริงๆ แล้วสมาชิกแต่ละคนจะมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่กลับเป็นข้อดีที่ทำให้จุดเด่นของแต่ละคนผลิตออกมาเป็นเพลงที่มีลายมือ ของวงค่อนข้างชัดเจน  ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะ ติดหู กับดนตรีหลากหลายอารมณ์ บวกกับเนื้อหาเท่ห์ๆ จากวิธีคิดของพวกเขา การรวมตัวของเริ่มจากการที่ทุกคนชอบนัดซ้อมดนตรีหลังเลิกเรียนด้วยกันเป็น ประจำ และเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเวทีต่างๆ อาทิ งาน Hunger Free Music Festival ได้รับรางวัล เนื้อเพลงยอดเยี่ยม และล่าสุดกับตัวแทนภาคเหนือ และรางวัลชมเชย จากงาน Believe Audition Day 2007
        มุมมองในการแต่งเพลง  เป็นมุมมองเรื่องราวต่างๆ รอบๆ ตัว และได้หยิบยกมาเขียนเป็นเพลง โดยเริ่มจาก บิ๊กและพุ จะเป็นผู้แต่งดนตรีขึ้นมาก่อน ส่นเท็นจะเขียนเนื้อร้อง โดยจับอารมณ์ของดนตรี ถึงจะถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง เพลงหนึ่ง  เนื้อเพลงจะฟังง่าย เรื่องราวไม่ซับซ้อน บางเพลงอาจจะฟังแล้วเหมือนฟังนิทานสักเรื่องหนึ่ง  ซึ่งถ่ายทอดผ่านดนตรี ของ MUSKETEERS 

 


สิงโต นำโชค





สิงโต  นำโชค หรือชื่อจริงของเค้าคือ นำโชค ทะนัดรัมย์ ชื่อเล่น บักสิงโต   เจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 และ รางวัล People Choice ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด จากการประกวด Ukulele Thai ครั้งแรกในประเทศไทย   สิงโตเป็นลูกชายคนโตของศิลปินลูกทุ่ง ชื่อ ชายทุ่ง รุ้งโรจน์ หนุ่มชาวบุรีรัมย์ที่มีใจรักในเสียงดนตรี ออกเดินทางหาประสบการณ์ในการเล่นดนตรีไกลถึงภูเก็ตพร้อมกีตาร์คู่ใจ 1 ตัว จากความตั้งใจแรกที่จะอยู่เล่นดนตรีกลางคืนแค่สามเดือน แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นสามปี ที่สะสม
        ทั้งประสบการณ์ การเล่นดนตรี การแต่งเพลง ทำให้ซึมซับวิธีการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สำหรับกิจกรรมยามว่างนอกเหนือจากการเล่นดนตรีคือการได้เล่นเซิร์ฟ หรือ การตระเวนหาร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ เพื่อใช้สำหรับนั่งแต่งเพลง จนได้มาเจอกับร้านกาแฟชื่อ AnyThing Goes ซึ่งเจ้าของร้านเป็นพี่สาวของคุณ Kijjaz Monotone ที่มักจะชอบให้ร้องเพลงที่ร้านเพื่อแลกกับกาแฟ ซึ่งในขณะนั้นคุณKijjaz และพี่สาว กำลังจะตั้งบริษัท พอลเลน ซาวน์ด (Pollen Sound) ซึ่งเป็น Music Production & Sound Design จากนั้นจึงถูกชักชวนให้มาทำงานเพลงร่วมกันในโปรเจค์ สิงโต  นำโชคโดยคุณ Kijjaz เป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้

        แนวเพลง Surf Music (เซิร์ฟ มิวสิค) คือ สไตล์ดนตรีที่ฟังสบายๆ ในแบบอะคูสติก ที่สามารถฟังได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ยามที่ไม่ได้อยู่ริมทะเล ซึ่งสำหรับอัลบั้มสิงโต  นำโชค คุณจะได้สัมผัสกับ แนวดนตรี , การใช้ชีวิต , วิธีคิด , งานอดิเรก ในแบบเซิร์ฟๆ ที่ถ่ายทอดออกมาในแบบไทยๆ



 

TEN TO TWELVE 



 
 TEN TO TWELVE (เท็น ทู ทเวลฟ์) กลุ่มเพื่อนนักเรียนที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมที่อัสสัมชัญ บางรัก จนแยกย้ายกันเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่ก็ยังเล่นดนตรีและทำเพลงด้วยกันมาตลอด

ชื่อวง “TEN TO TWELVE” มา จากการที่วงมักจะนัดซ้อมดนตรีกันตอน 10 โมง แต่กว่าจะมาถึงกันครบก็เป็นเวลาเที่ยงกันประจำ จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของวง จนใช้ชื่อ “TEN TO TWELVE” เพื่อเล่นตามเวทีต่างๆ จนกลายเป็นชื่อวงอย่างถาวรจนปัจจุบัน

โดยพื้นฐานแนวเพลงของพวกเขาจะ เป็น ร็อค แต่มีเนื้อหาที่ฟังง่าย บวกกับเพลงที่มีวิธีคิดและวิธีสื่อสารในมุมมองของพวกเขา เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ความสนุกและการเรียนรู้จากการใช้ชีวิต และนำสิ่งนั้นมาคิดต่อยอด จนเป็นเพลงที่ถ่ายทอดมาออกมาให้ได้ฟัง เนื้อหาของเพลงจะพูดถึงเรื่องความรักกว้างๆ มุมมองของความรักที่เราได้พบและเจอมา

บทเพลงจากพวกเขาที่เคยถูกปล่อยออกมาอาทิ ด้วยกันกับฉัน” “โคจร ที่เคยปลุกหลายหัวใจให้โลดแล่นกับความรักที่สดใส และซิงเกิ้ลล่าสุด ภาวนา อีกหนึ่งมุมมองความรักจาก “TEN TO TWELVE” 




The Mousses

    The Mousses













สมาชิก  The Mousses  




                                                                            
พงศกร   ลิ่มสกุล   “แอร์”     ร้องนำ










อธิศ       อมรเวช   “จ๊ะ”      กีต้าร์











ศรัย       ยิ่งเจริญ   “บาส”     เบส







ศุภโชค   เตือนจิตต์  “ต๋า”    กลอง






        The Mousses  วงดนตรี การาจ ร็อค  ของสี่หนุ่มที่มีบุคลิกและตัวตนที่สะดุดตา โดยแอร์ จ๊ะ และบาสเป็นเพื่อนที่เรียนและเล่นดนตรีกันมาตั้งแต่มัธยม  แล้วมาพบกับแม็กที่คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยสมาชิกทุกคนในวงจะชอบแนวเพลงที่สดและดิบแบบ การาจ ร็อค ที่กำลังเป็นที่นิยมของคอเพลงอินดี้ในปัจจุบัน แต่จะมีมุม และวิธีการนำเสนอที่แตกต่างกันไป แต่ท้ายที่สุดแล้วก็จะหยิบยกสิ่งที่พวกเขาชอบ เอามารวมกันไว้เป็นเพลงของเขา รวมถึงการแต่งกายและทรงผมที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด แต่เหนืออื่นใดคือ ใจรักในดนตรีที่วงอยากจะตามหาความฝันและมีเวทีเป็นของตนเอง โดยเริ่มจากการประกวด รวมถึงการทำเพลงไปขายในเทศกาลหรืองานต่างๆ  รวมถึงงาน Believe Audition Day 2007 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนของภาคกลาง และได้รับรางวัลชมเชย  กับดนตรีการาจ ที่สด ดิบ มีความชัดเจนในตัวตนและดนตรีของพวกเขา จนได้มีโอกาสมาร่วมงานกับทาง Believe Records ในที่สุด    และพวกเขาได้มีสมาชิกใหม่ คือ ต๋า  มือกลอง  ที่มีอายุน้อยที่สุด   เมื่อเเมกซ์  มือกลองคนเดิมลาอกจากวง




มุมมองในการแต่งเพลง  เป็นมุมมองความรักของวัยรุ่น ซึ่งเป็นความจริงที่เราเคยเป็นอยู่ การเขียนเพลงของวง จะเป็นการรวมความคิดกัน โดยการตั้งคอนเซ็ปของเพลงขึ้นมาก่อน ทุกคนจะมาแจมคนละนิดคนละหน่อย ช่วยกันแต่ง แล้วเอามาลองเล่นในห้องซ้อมจนได้เพลงที่สมบูรณ์ ด้านเนื้อหาของเพลง แอร์ ร้องนำ จะเป็นคนขึ้นโครงเนื้อร้องและทำนองก่อน แล้วทุกคนจะช่วยกันดูแลต่อ ด้านเนื้อหาของเพลงจะฟังง่าย  โดยแอร์ร้องนำ อยากจะให้ทุกคนเปิดใจกับเพลงใหม่ๆ ในสไตล์ของ  The Mousses